ผู้จัดทำ
สวัสดีค่ะ
วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555
Arctic Monkey
ประวัติ
อเลกซ์และเจมี่ ทั้งคู่ตั้งวงกับอีกสองหนุ่มเพื่อนร่วมโรงเรียน แมต และแอนดี้ (มือเบสคนเก่า) ในปี 2002 และเริ่มตระเวนทัวร์ในละแวกเชฟฟิลด์เมืองเกิด โดยคอนเสิร์ตแรกของพวกคือที่ผับ The Grapes เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.
2003 จากนั้นก็เริ่มทำเดโม และเบิร์นแจกตามคอนเสิร์ตที่พวกเขาขึ้นแสดง
การแสดงสดและเพลงเดโมของพวกเขาถูกเล่าขานกันปากต่อปาก
การทัวร์ของวงหนุ่มวัยเกระเตาะเริ่มแผ่ขยายจากละแวกบ้านเป็นนอกเมือง
จากนอกเมืองสู่เมืองใหญ่ ระหว่างนั้นเพลงในเดโมของพวกเขาก็แพร่สะพัดให้ดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ต นับว่าอาร์กติก มังกี้ส์เป็นอีกหนึ่งวงของศิลปินยุคใหม่ ที่ชื่อเสียงอันโด่งดังของพวกเขสไม่ได้พึ่งพาระบบธุรกิจแต่แรก
เดือนพฤษภาคม 2005 พวกเขาวางจำหน่ายอีพี Five Minutes with Arctic
Monkeys ที่มีเพลง Fake Tales of San Francisco และ From the Ritz to the
Rubble รวมอยู่ด้วย ในจำนวนจำกัดเพียง 1,500 แผ่น
ซึ่งขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งที่ยังไม่มีค่ายเพลงสนับสนุน
โดยวงให้สาเหตุกับการไม่เซ็นสัญญากับค่ายใดว่า เพราะพวกเขาไม่อยากโดนผูกมัด
และไม่อยากให้ใครมีส่วนกำหนดทิศทางของดนตรี นอกจากตัวพวกเขาเอง
กระทั่งวงตัดสินใจเซ็นกับสังกัด Domino ในเดือนต่อมา
เพราะนับถือทัศนคติของเจ้าของสังกัด คือ ลอว์เรนซ์ เบล
ที่ถือคติว่าจะเซ็นสัญญากับวงที่ตัวเองโปรดปรานเท่านั้น
ทั้งยังสนับสนุนระบบการทำงานแบบ DIY
ซึ่งเขาจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใดด้วย
I Bet You Look Good on the Dancefloor และ When the Sun Goes Down
สองซิงเกิลจากอัลบั้มแรกขึ้นอันดับที่ 1 ของชาร์ตอังกฤษ
และเมื่ออัลบัมวางจำหน่าย ก็ขึ้นอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก
ทำให้พวกเขาต้องออกทัวร์อย่างไม่หยุดพัก และทัวร์ที่สำคัญก็คือ
การทัวร์อเมริกากลางปี 2006 โดยเป็นวงเปิดให้กับ Oasis
การทัวร์อเมริกาครั้งนี้ ทำให้อาร์กติก มังกี้ส์แจ้งเกิด
จนวงเขาต้องกลับไปเปิดทัวร์อเมริกาอีกรอบ
แต่การทัวร์อย่างหนักก็ส่งผลให้แอนดี้ นิโคลสัน มือเบส
ขอลาออกจากวงเพื่อไปพักผ่อน อาร์กติก มังกี้ส์จึงดึงนิคเข้ามาแทนที่
และเริ่มบันทึกเสียงในอัลบัมใหม่ Favourite Worst Nightmare ต่อมา
ซึ่งการทำงานในอัลบัมนี้นั้น อเลกซ์กล่าวว่า
เป็นการทำงานที่ต่อยอดมาจากเพลงในอัลบัมแรก คือ View from the Afternoon,
From the Ritz to the Rubble และ Perhaps Vampires is a Bit Strong But
อัลบั้มที่ 2 Favourite Worst Nightmare เปิดตัวด้วยซิงเกิล Brianstorm (ไบรอันสตอร์ม)
อัลบั้มที่ 3 Humbug เปิดตัวด้วยซิงเกิล "Crying Lightning" ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ใน UK Indie Chart และขึ้นชาร์ตอันดับที่ 12 ใน UK Singles มีโปรดิวเซอร์คือ James Ford จากอัลบั้มชุดที่สอง Favourite Worst Nightmare และ Josh Homme จาก Queens of The Stone Age อัลบั้มนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวเพลงของ อาร์กติก มังกี้ส์ จากที่เคยเล่นแนว การาจ ร็อก ที่มีกลิ่นอาย พังก์ นิดๆ จากเสียงร้องของ Alex Turner แต่ในอัลบั้มนี้นั้นเน้นความเป็น ไซเคเดลิกร็อก มากขึ้น ซึ่งอันที่จริงในอัลบั้มที่สองนั้นก็มีกลิ่นอายเพลงแนวนี้อยู่แล้ว ความเป็น ไซเคเดลิก ของอัลบั้มนี้นั้นเห็นได้จากหน้าปกอัลบั้มที่เป็นภาพคล้ายๆ ภาพหลอน แต่หลายๆ เพลงนั้นก็ยังมีความเป็น อาร์กติก มังกี้ส์ แบบเดิมๆ อยู่มากด้วยเช่นกัน
อัลบั้มที่ 4 Suck It and See มี เจมส์ ฟอร์ด
เป็นโปรดิวเซอร์ให้และได้บันทึกเสียงที่เมือง Los Angeles ในปี 2010-2011
จะวางแผงในวันที่ 6 มิถุนายน 2011
ดนตรีสากล
ดนตรี
สากลหรือดนตรีตะวันตกมีพื้นฐานจากความมุ่งหวังไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า
จากหลักปรัชญากรีกโบราณในราวช่วงปี 800 ก่อนคริสตกาล
ที่เน้นความสำคัญของการสร้างร่างกายให้แข็งแรงด้วยการเล่นกีฬา
และงดงามของจิตใจด้วยศิลปะ บทกวี ดนตรี การละคร และระบำรำฟ้อน
เพื่อสร้างสรรค์ให้มนุษย์สมบูรณ์
ปี 585-479 ก่อนคริสตกาล ชาวกรีกชื่อ ปิธากอรัส คิดค้นทฤษฎีการเกิดเสียงขึ้นจากการคำนวณรอบการสั่นสะเทือนของสายเสียง ได้ข้อสรุปว่า "ถ้าสายสั้นกว่าจะได้เสียงที่สูงกว่า ถ้าสายยาวกว่าจะได้เสียงที่ต่ำกว่า" วิชาความรู้และแนวคิดนี้กระจายแพร่หลาย ชื่อเสียงปิธากอรัสเลื่องลือทั่วยุโรป
มีการจำแนกเครื่องดนตรีเป็น 4 ประเภท และที่ถามประวัติเครื่องดนตรีมาจะยกตัวอย่างประเภทละหนึ่ง ไม่งั้นต้องตอบกันไปอีกหลายชั่วยาม...
ปี 585-479 ก่อนคริสตกาล ชาวกรีกชื่อ ปิธากอรัส คิดค้นทฤษฎีการเกิดเสียงขึ้นจากการคำนวณรอบการสั่นสะเทือนของสายเสียง ได้ข้อสรุปว่า "ถ้าสายสั้นกว่าจะได้เสียงที่สูงกว่า ถ้าสายยาวกว่าจะได้เสียงที่ต่ำกว่า" วิชาความรู้และแนวคิดนี้กระจายแพร่หลาย ชื่อเสียงปิธากอรัสเลื่องลือทั่วยุโรป
มีการจำแนกเครื่องดนตรีเป็น 4 ประเภท และที่ถามประวัติเครื่องดนตรีมาจะยกตัวอย่างประเภทละหนึ่ง ไม่งั้นต้องตอบกันไปอีกหลายชั่วยาม...
1. เครื่องสาย-String ได้แก่
ไวโอลิน วิโอลา เชลโล ดับเบิลเบส พิณ กีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน บาลาไลกา
สืบประวัติเครื่องตระกูลไวโอลินได้ว่ากำเนิดมาจากต้นตอคือ
ซอรีเบ็คและซอวิแอล ซึ่งเป็นซอโบราณในสมัยกลาง และซอลิราดาบรัชโช
สมัยเรอเนซองซ์ ค.ศ.1600-1750
นับเป็นยุคทองของการประดิษฐ์ไวโอลินที่ได้รับการดัดแปลงปรับปรุงจนมีคุณภาพ
สูงถึงขีดสุดยอด
2. เครื่องเป่าลมไม้ - Woodwind ได้แก่ ฟลุ้ต
พิโคโล คลาริเน็ต โอโบ บาสซูน อิงลิชฮอร์น แซ็กโซโฟน รีคอร์เดอร์ แพนไปพ์
ปี่สกอต ออร์แกน(แบบดั้งเดิม) หีบเพลงปาก ยกตัวอย่างฟลุ้ต
เครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุด พัฒนามาพร้อมกับอารยธรรมมนุษย์
แรกเริ่มทีเดียวมนุษย์ในยุคหินคงหากระดูกสัตว์หรือเขากวางเป็นท่อนกลวงหรือ
ไม่ก็ปล้องไม้ไผ่มาเจาะรูแล้วเป่าให้เกิดเสียงต่างๆ
วัตถุเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้
3. เครื่องเป่าทองเหลือง - Brass ได้แก่ ทรัมเป็ต คอร์เนท เฟรนช์ฮอร์น ทรอมโบน ทูบา ซูซาโฟน ยูโฟเนียม ยกตัวอย่าง ทรัมเป็ต ประวัติมาไกลถึงแถบเอเชียซึ่งปรากฏหลักฐานว่าชาวจีนเคยใช้แตรที่มีลักษณะ คล้ายทรัมเป็ตมานานกว่า 4,000 ปี ขณะชาวยุโรปใช้แตรที่มีลำโพงงอเป็นขอในกองทัพ สมัยโบราณยุโรปถือว่าทรัมเป็ตเป็นของสูง ผู้ที่จะมีได้หากไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย ก็เป็นนักรบชั้นแม่ทัพ
4. เครื่องกระทบ - Percussion ได้แก่ กลองเล็ก กลองใหญ่ กลองเทเนอร์ กลองบองโก กลองทิมปานี ไชนีส บ็อกซ์ กรับสเปน ฉาบ ไซไลโฟน ยกตัวอย่างกลองทิมปานี มีต้นกำเนิดแถวอาระเบีย ชาวอาหรับสมัยก่อนจะผูกกลอง 2 ลูกบนหลังอูฐ สำหรับตีประโคมเวลายกทัพออกศึกหรือยามเคลื่อนคาราวาน แขกมัวร์เป็นผู้นำกลองชนิดนี้เข้ายุโรป กลายพันธุ์เป็นเครื่องดนตรีสากลด้วยประการฉะนั้น
3. เครื่องเป่าทองเหลือง - Brass ได้แก่ ทรัมเป็ต คอร์เนท เฟรนช์ฮอร์น ทรอมโบน ทูบา ซูซาโฟน ยูโฟเนียม ยกตัวอย่าง ทรัมเป็ต ประวัติมาไกลถึงแถบเอเชียซึ่งปรากฏหลักฐานว่าชาวจีนเคยใช้แตรที่มีลักษณะ คล้ายทรัมเป็ตมานานกว่า 4,000 ปี ขณะชาวยุโรปใช้แตรที่มีลำโพงงอเป็นขอในกองทัพ สมัยโบราณยุโรปถือว่าทรัมเป็ตเป็นของสูง ผู้ที่จะมีได้หากไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย ก็เป็นนักรบชั้นแม่ทัพ
4. เครื่องกระทบ - Percussion ได้แก่ กลองเล็ก กลองใหญ่ กลองเทเนอร์ กลองบองโก กลองทิมปานี ไชนีส บ็อกซ์ กรับสเปน ฉาบ ไซไลโฟน ยกตัวอย่างกลองทิมปานี มีต้นกำเนิดแถวอาระเบีย ชาวอาหรับสมัยก่อนจะผูกกลอง 2 ลูกบนหลังอูฐ สำหรับตีประโคมเวลายกทัพออกศึกหรือยามเคลื่อนคาราวาน แขกมัวร์เป็นผู้นำกลองชนิดนี้เข้ายุโรป กลายพันธุ์เป็นเครื่องดนตรีสากลด้วยประการฉะนั้น
มารู้จักกับ Geasy cafe ค่ะ
อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร (เล็ก) เป็นช่างภาพนิ่ง นักร้องนำ และนักแต่งเพลง แนวบริท ป็อป ในนามกรีซซี่ คาเฟ่ (Greasy Cafe) สังกัดค่ายสมอลล์รูม เริ่มการทำเพลงจากการก่อตั้งวงดนตรีเล่นกับเพื่อนสมัยเรียนที่อังกฤษ ในนามวง The Light ตำแหน่งมือกีต้าร์ เมื่อปี พ.ศ. 2536 และได้มีการมาเสนอผลงานให้กับค่ายเพลงในไทยบ้าง อภิชัยได้รู้จักกับ รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ ผู้บริหารของ สมอลล์รูม เป็นครั้งแรก เมื่อครั้งที่ได้ถ่ายภาพเขาและเพื่อนในวง Crub และชักชวนให้มาทำในอัลบั้ม Smallroom 001 อัลบั้มรวมเพลงเปิดตัวของค่ายสมอลล์รูม เริ่มต้นเป็นที่รู้จักจากผลงานเพลง "หา (Quest?)" ในอัลบั้มนั้น ก่อนจะกลับมาอีกครั้งกับซิงเกิล "พบ (Pop)" ในอัลบั้ม Smallroom 002 (พ.ศ. 2544)
นอกจากนี้เขาเป็นช่างภาพนิ่งของกองถ่ายภาพยนตร์ชั้นนำมากมาย อาทิ จัน ดารา, องคุลีมาล, ปืนใหญ่จอมสลัด และอีกหลายเรื่อง หลังจากนั้นหลายปีต่อมาได้ร่วมงานในโปรเจค "สนามหลวงคอนเนคส์" สังกัด สนามหลวง ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยนำเพลง "เธอรู้รึเปล่า" ของ ใหม่ เจริญปุระ มาเรียบเรียงใหม่ โดยกลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มเต็มชุดแรก "สิ่งเหล่านี้" สังกัด สมอลล์รูม (พ.ศ. 2551)
กีตาร์คลาสสิก
กีตาร์คลาสสิก เป็นเครื่องดนตรีประเภทที่ดีดด้วยนิ้วมือ มีพัฒนาการมาก่อนศตวรรษที่15 โดยพัฒนามาจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า วิเวลา(Vihuela)ซึ่งนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายในประเทศสเปน ข้อแตกต่างของกีตาร์คลาสสิกกับกีตาร์ชนิดอื่น คือ ขนาดของคอกีตาร์ หรือ fingerboard ที่มีขนาดที่กว้างกว่ากีตาร์ชนิดอื่น และสายที่ทำด้วยไนล่อน หรือที่เรียกกันว่าสายเอ็น เพราะแต่เดิมใช้สายที่ทำมาจากเอ็นของสัตว์ กีตาร์อีกประเภทหนึ่งที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับกีตาร์คลาสสิก คือ กีตาร์ฟลาเมงโก (Flamenco Guitar)
กีตาร์คลาสสิกนั้นให้เสียงในโทนพริ้วไหว สำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการเล่นแล้ว กีตาร์คลาสสิกจะสามารถบันดาลเสียงทุกเสียงที่จะประกอบกันให้เป็นเพลงที่ ไพเราะจับใจได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นท่วงทำนอง(MELODY)คอร์ด(CHORD) และเบสส์(BASS) ในการเล่นกีตาร์คลาสสิกนั้นผู้เล่นต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคมากมายซึ่งในการฝึกหัดนั้นต้องใช้ทั้งเวลา และความพยายามอย่างสูง มันจึงกลายเป็นดาบสองคมไปเลยในบางครั้ง คือ แทนที่จะช่วยให้ท่านได้พบกับความซาบซึ้ง และแตกฉานทางดนตรี มันกลับทำให้ท่านท้อแท้หรือมีอคติกับดนตรี (คลาสสิก) ไปเลยก็ได้ กีตาร์คลาสสิกจึงจัดได้ว่ามีความสมบูรณ์ในตัวมันเองจนมีผู้กล่าวว่าการเล่น กีตาร์คลาสสิกนั้นไม่ต่างอะไรไปกับการเล่นของวงออร์เคสต้าร์ขนาดย่อมๆเลยที่ เดี่ยว
วงดนตรีพื้นเมือง
วง
ดนตรีพื้นเมือง
คือวงดนตรีที่คนในท้องถิ่นคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้บรรเลงเพื่อความบันเทิงหรือ
ประกอบการแสดงชุดต่าง ๆ ซึ่งจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น
เครื่องดนตรีที่ใช้จะเป็นเครื่องดนตรีที่ท้องถิ่น นั้น ๆ จัดทำขึ้นเอง
ส่วนมากเป็นแบบง่าย ๆ วัสดุที่ใช้ทำเป็นวัสดุหาง่าย ๆ ในท้องถิ่นนั้น ๆ
วงดนตรีพื้นเมืองภาคเหนือ
วง
ดนตรีพื้นเมืองภาคเหนือ
คือวงดนตรีที่คนในท้องถิ่นภาคเหนือได้คิดค้นจัดวงขึ้น
ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดนตรีในท้องถิ่นภาคเหนือเอง ได้แก่ กลองขนาดใหญ่
(กลองแอว) ฉาบ ฆ้องหุ่ย ปี่จุม เป็นต้น
นำมาผสมวงเพื่อใช้บรรเลงประกอบการขับร้องและประกอบการแสดงการฟ้อนต่าง ๆ
ของภาคเหนือ เช่น วงสะล้อซอซึง เป็นต้น
วงดนตรีพื้นเมืองภาคใต้
วง
ดนตรีพื้นเมืองภาคใต้
คือวงดนตรีที่คนในท้องถิ่นภาคใต้ใช้บรรเลงประกอบการแสดงพื้นเมืองของชาวภาค
ใต้ เช่น วงปี่พาทย์ชาตรีใช้บรรเลงประกอบการแสดงโนราห์และหนังตะลุง
วงกาหลอใช้บรรเลงในงานศพ และวงดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงรองเง็ง
ซึ่งประกอบด้วยไวโอลิน กลองแขก และกลองอเมริกัน เป็นต้น
วงดนตรีพื้นเมืองภาคอีสาน
วง
ดนตรีพื้นเมืองภาคอีสาน
คือวงดนตรีที่คนในท้องถิ่นภาคอีสานใช้บรรเลงประกอบการแสดงพื้นเมือง เช่น
การฟ้อนรำ (เซิ้ง) ที่มีลีลาจังหวะสนุกสนาน รวดเร็ว กระฉับกระเฉง ได้แก่
วงแคน วงโปงลาง เป็นต้น
ส่วน
ในภาคกลางจะนิยมเล่นเพลงพื้นบ้าน จะไม่มีวงดนตรีพื้นเมือง
ส่วนวงดนตรีที่ใช้ในโอกาสต่าง ๆ จะใช้วงดนตรีไทยธรรมดา
เพลงพื้นบ้านที่นิยมเล่นกันในแถบภาคกลาง ได้แก่ เพลงฉ่อย เพลงเรือ
เพลงเกี่ยวข้าว เพลงสงฟาง เพลงปรบไก่ เพลงพิษฐาน เพลงอีแซว เพลงพวงมาลัย
เป็นต้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)